7/12/52

ทำไมต้องเรียกฮอตดอก




ฮอตดอก แปลตามตัวว่า "หมาร้อน"
แต่ไส้กรอกประกบด้วยขนมปังที่เรียกว่าฮอตดอกนั้น
ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับหมา
และไม่ได้เป็นอาหารที่คนอเมริกันคิดค้นขึ้นมาอย่างที่เรามักจะเข้าใจ


ประวัติของฮอตดอกเริ่มตั้งแต่สมัยบาบิโลเนียเมื่อ ๓,๕๐๐ ปีที่แล้ว
มีลักษณะเป็นเนื้อหมักเครื่องเทศ ยัดไว้ในไส้สัตว์
ชาวโรมันเรียกอาหารประเภทนี้ว่า Salsus
ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของคำว่า Sausage หรือไส้กรอกในภาษาอังกฤษนั่นเอง


ในสมัยยุคกลาง เมืองต่าง ๆ ในยุโรปได้พัฒนาสูตร รสชาติ
และรูปร่างของไส้กรอกของตนเอง
และตั้งชื่อไส้กรอกตามชื่อเมืองที่เป็นถิ่นกำเนิด เช่น ไส้กรอกเวียนนา เป็นต้น


ไส้กรอกของประเทศแถบเมดิเตอเรเนียนจะมีลักษณะแข็งและแห้ง
เพื่อไม่ให้ไส้กรอกบูดเสียได้ง่ายในอากาศร้อนแถบนั้น
ส่วนไส้กรอกของสก็อตแลนด์นิยมยัดไส้ด้วยข้าวโอ๊ต มากกว่าจะใช้เนื้อหมูหรือเนื้อวัว


ไส้กรอกที่เป็นที่นิยมกันมากที่สุดประเภทหนึ่งในเยอรมนี
คิดค้นขึ้นโดยชาวเมืองแฟรงเฟิร์ต จึงมีชื่อเรียกว่าแฟรงเฟอเตอร์
หรือเรียกสั้น ๆ ว่า แฟรงค์ มีขนาดหนา นุ่ม
ใส่เครื่องเทศและรมควันอย่างดีมีรูปร่างโค้งเล็กน้อย คล้ายรูปร่างของสุนัขดัชชุนด์
จนบางคนเรียกไส้กรอกประเภทนี้ว่า ไส้กรอกดัชชุนด์
เล่ากันว่าผู้คิดไส้กรอกประเภทนี้เลี้ยงสุนัขดัชชุนด์ไว้หนึ่งตัว จึงเกิดความคิคว่า
ไส้กรอกที่มีรูปร่างเหมือนสุนัขตัวโปรดนี้จะเป็นที่นิยมของตลาดด้วย


ชาวยุโรปที่อพยพไปสหรัฐอเมริกา ได้นำไส้กรอกแฟรงเฟอเตอร์ไปด้วย
ไส้กรอกที่ประกบด้วยขนมปังเป็นที่นิยมอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นอาหารว่างยอดนิยมระหว่างดูกีฬา

ในปี 1906 นักวาดการ์ตูนชื่อ โทมัส ดอร์แกน
ได้แรงบันดาลใจจากรูปร่างที่โค้งงอคล้ายสุนัขดัชชุนค์ของไส้กรอก
และจากเสียงพ่อค้า"เห่า" ตะโกนเรียกคนซื้อ
จึงได้วาดรูปสุนัขดัชชุนด์ราดด้วยมัสตาร์ดประกบด้วยขนมปัง
และเขียนบรรยายใต้รูปว่า “ซื้อหมาร้อน ๆ จ้า" (“Get your hot dogs! )

เล่ากันว่าดอร์แกนไม่สามารถสะกดคำว่า ดัชชุนด์ได้ถูกต้อง จึงใช้คำว่าหมา (dog) แทน

ปรากฏว่าคำว่าฮอตดอกกลายเป็นคำที่ติดปากคนอเมริกันทั่วไป
จนเลิกเรียกไส้กรอกด้วยคำอื่น ๆ และยังทำให้ชาวโลกคิดว่า
ฮอตดอกเป็นอาหารที่คนอเมริกันคิดขึ้นมาอีกด้วย


ที่มา 108 ซองคำถาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น