24/10/52

รู้จักเงินกันเถอะ

คงไม่มีใครไม่รู้ว่าเงินคืออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร ใช้ประโยชน์มันอย่างไร ก็คงคล้ายกับผมเองที่รู้จักว่ากุ้งคืออะไร ปลาคืออะไร แต่ถ้าจะให้เลี้ยง อาจจะเลี้ยงได้ไม่ดีเท่ากับคนที่ศึกษาเรื่องนี้ อย่างไรก็ดี ผมจะไปศึกษาเรื่องกุ้ง เรื่องปลาไปทำไม แค่เลือกซื้อเป็น ทำกินเป็นก็คงพอแล้ว แต่เรื่องเงินนั้นไม่เหมือนกัน จะรู้จักหาและใช้อย่างเดียวมันไม่พอ เพราะเงินเกี่ยวข้องกับชีวิตโดยตรง คุณเลิกท่องว่าปัจจัย 4 มีอะไรบ้างไปได้เลย มีเงินไว้ก่อน ปัจจัย 4 จะตามมาเอง แล้วอย่างนี้จะละเลยเรื่องที่จะศึกษาเงินจริง ๆ จัง ๆ ได้อย่างไร เรื่องของเงินที่น่าสนใจก็คือธรรมชาติของเงิน ซึ่งเป็นสิ่งที่มองเห็นได้ทั่วไป โดยเราจะยกตัวอย่างให้สักเล็กน้อย เพื่อให้ท่านเริ่มสังเกตเรื่องเงิน ๆ ของท่านเองในชีวิตประจำวัน

ธรรมชาติของเงิน

เราสามารถสังเกตเห็นเสมอ ๆ ว่า การใช้จ่ายเงินของผู้ที่ทำงานกินเงินเดือน มักจะใช้จ่ายมากในช่วงต้นเดือน ทั้งจ่ายหนี้เก่า ซื้อของที่เล็งไว้แล้วหลายอาทิตย์ หรือเที่ยวฉลองเหตุการณ์ต่าง ๆ แต่พอปลายเดือนก็ต้องมาอยู่อย่างประหยัด คนเหล่านี้มักจะกล่าวเสมอ ๆ ว่า "ถ้า 1 เดือนมี 20 วัน คงไม่มีปัญหาเรื่องเงิน" สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา และเป็นเรื่องธรรมดาของคนกับเงิน ซึ่งถ้าเราทำความเข้าใจกับธรรมชาติของเงินสักเล็กน้อย เงินเหล่านั้นก็จะไม่หลุดไปจากมือเราง่าย ๆ

ธรรมชาติของคนกับเงิน 1. เงินเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ : ข้อนี้คงไม่ต้องบางคนอาจจะเถียงว่า อธิบายมาก เพราะคนเราต้องตื่นแต่เช้า บุกบั่นมาทำงานก็เพื่อ "เงิน" บางคนอาจเถียงว่า สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่เงินแต่เป็นความสุข ซึ่งอันนี้ออกจะเป็นรายละเอียดปลีกย่อย แต่ยอมรับเถอะว่า คุณต้องการเงิน และหลาย ๆ คนก็ต้องการเงิน แต่เงินก็เป็นเพียงวัตถุที่เราสามารถบริหาร-จัดการได้ไม่ยากนัก ถ้าเรารู้จักมัน2. เงินที่ได้มาง่าย ก็เสียไปง่าย : หากคนเราได้เงินมาเป็นจำนวนมากในคราวเดียว ก็มักจะใช้จ่ายมากกว่าปกติ เงินที่กล่าวถึงในที่นี้ คือ

- เงินรางวัล คือสิ่งที่ได้มาด้วยดวง เช่น หวย ลอตเตอรี่ ชิงโชค

- โบนัสก้อนโต คือเงินโบนัสที่ได้มามากกว่า ที่เราคาดหวังไว้ - มรดก เป็นเงินสด (เป็นสิ่งขิงที่ขายได้)

- กำไรพิเศษ เช่น กำไรจากการขายที่ดินได้ ในยามเศรษฐกิจดี

- กำไรจากหุ้น หรือการค้าขายได้เฟื่องฟูโดยไม่ได้คาดหมายไว้

- เงินที่ได้มาฟรี ๆ จากญาติ พ่อแม่ ปู่ ย่า หรือใครก็ตามถ้าเรามีโอกาสได้เงินมาง่าย ๆ แสดงว่าเป็นความโชคดีของเรา แต่จงจำไว้ว่าโชคดีไม่ได้มีมาเสมอ หากใช้เสียหมดแล้ว ท่านต้องมาเสียใจในภายหลัง วิธีจัดการที่ดี คือ การนำเงินก้อนนี้ไปฝากประจำ (หรือลงทุนระยะยาวอื่น ๆ) แล้วลืมมันไปสักระยะ คิดเสียว่าไม่ใช่เงินของเรา3. ถ้ามีเงินถึงจุดหนึ่ง จะเริ่มอยากรวย : คนส่วนมากจะตระหนักถึงความสำคัญของการเก็บออม แต่คนที่มีความรู้สึกอยากรวย เท่านั้นจึงจะมีความตั้งใจเก็บออมได้ดี จากการสำรวจในอเมริกา พบสิ่งที่น่าสนใจว่า คนเราเมื่อมีเงินถึงจุดหนึ่ง ก็จะเกิดความรู้สึกอยากมีมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก ซึ่งคนพวกนี้จะตั้งใจเก็บเงินมากและมีความสุขกับตัวเลขในบัญชีที่เพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน คนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งมีเงินเก็บไม่มาก มักจะยังไม่เกิดกิเลสในความโลภ เท่ากับคนที่เริ่มมีเงินเก็บ หรือความร่ำรวยในระดับหนึ่งแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น