17/11/53

กบฏวังหลวง

นับตั้งแต่จอมพล ป. พิบูลสงคราม ขึ้นถือบังเหียนปกครองประเทศ ได้มีการปฎิวัติ รัฐประหาร กบฎ จลาจล กันอยู่ตลอดเวลา และแม้จะเป็นฝ่ายพลเรือนกับทหาร หรือจะเป็นการต่อสู้ระหว่างชาตินิยมกับสังคมนิยม หรือระบบนาซี แบบฮิตเลอร์ กับนายปรีดี พนมยงค์ ผู้ยึดถือสังคมนิยมแบบพวกอำมาตยาธิปไตย ก็มีบทบาทแต่แรกๆเท่านั้น เมื่อจอมพล ป. ได้อำนาจแล้วอิทธิพลของพวกอำมาตยาธิปไตย ก็หมดไป เพราะจอมพล ป. กำจัดเสียราบคาบ
คืนวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2492 เป็นวันวิปโยคอีกวันในระบบประชาธิปไตยแบบไทยๆ หรือแบบอนาธิปไตย ที่ท่าพระจันทร์ผู้คนกำลังพลุกพล่านสับสน ในคืนนั้นไม่มีใครรู้ว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นในประเทศไทย
ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโส เจ้าของโครงการเศรษฐกิจแห่งชาติ ภายใต้เครื่องแบบทหารยศพันจ่าเอก ไว้หนวดเล็กน้อยแบบฮิตเลอร์ ยังมีเรือเอกวัชรชัย ชัยสิทธิเวช ได้มาปรากฎตัวที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพราะได้มีการนัดมากินเลี้ยงกัน บุคคที่นายปรีดีนัดแนะมาได้แก่ พล.ต. สมบูรณ์ ศรานุชิต นายปราโมทย์ พึ่งสุนทร์ นายสมพงษ์ ชัยเจริญ นายละออ เชื้อภัย นายกมล ชลศึก นายทวี ตเวกุล และยังมีคนอื่นๆอีกประมาณ 50 คน
ในขณะที่บุคคลสำคัญๆ เลี้ยงสุรากันอย่างสนุกสนาน เพื่อความร่วมมือกันเป็นเอกฉันท์ในการล้มล้างรัฐบาลจอมพล ป. ตลอดระยะเวลาได้ดำเนินไปอย่างเป็นกันเองนั้น พรรคพวกของนายปรีดีได้ลำเลียงอาวุธซึ่งได้มาเมื่อคราวเป็นเสรีไทย เข้าไปรวบรวมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นจำนวนมาก
หลังจากที่งานเลี้ยงผ่านไปแล้ว นายปรีดี พนมยงค์ ผู้นับถือพระเจ้าองค์เดียวคือ คาร์ลมาร์กซ์ ก็เริ่มวางแผนที่จะยึดอำนาจ แผยแรกคือใช้กำลังส่วนหนึ่งเข้ายึดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เอาไว้ เป็นกองบัญชาการ และรวบรวมสรรพกำลัง
แผนต่อไปคือจะใช้กำลังส่วนหนึ่ง เข้ายึดพระบรมมหาราชวังไว้เป็นกองบัญชาการชั่วคราว ส่วนที่บัญชาการคุมกำลังส่วนใหญ่ หรือเป็นที่รวบรวมสรรพอาวุธอันสำคัญนั้น อยู่ที่กองสัญญาณทหารเรือที่ศาลาแดง กำลังอีกส่วนหนึ่ง นายปรีดี ได้บัญชาการให้ไปยึดบริเวณวัดพระเชตุพนตรงข้ามกับ ร. พัน 1. เพื่อเป็นการตรึงกำลัง ร. พัน. 1 ไว้
เมื่อกำลังส่วนต่างๆ ในพระนคร โดยมีทหารบก พลเรือน ตำรวจเข้ายึดสถานที่สำคัญๆ เพื่อตรึงกำลังของหน่วยทหารบกบางแห่งไว้แล้ว ด้านกลุ่มเสรีไทย ที่เคยร่วมมือกับนายปรีดีต้านญี่ปุ่น ก็จะเคลื่อนกำลังเข้าสสทบโดยเร็วที่สุด โดย นายชาญ บุนนาค ผู้จัดการป่าไม้สัมปทานหัวหิน จะเป็นผู้นำพวกเสรีไทยเข้าสู่พระนคร นายชวน เข็มเพชร นำพวกเสรีไทยภาคตะวันออกได้แก่ ลาว ญวณอิสระ เข้ามาทางอรัญประเทศ นายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ นายจำลอง ดาวเรือง นายถวิล อุดล และนายเตียง ศิริขันธ์ จะนำพวกเสรีไทยยึดภาคอิสาน แล้วจะนำพวกเสรีไทยเข้ามาสมทบในพระนคร นายเปลว ชลภูมิ จะนำเสรีไทยจากเมืองกาญจนบุรี เข้ามาสมทบอีก
สำหรับทหารเรือที่เป็นฝ่ายสนับสนุนการปฎิวัติของนายปรีดีนั้น ก็มี พล.ร.ต. สังวร สุวรรณชีพ พล. ร.ต. ทหาร ขำหิรัญ ก็จะนำกำลังทหารเรือบางส่วนจากสัตหีบ ชลบุรี ระยอง เคลื่อนทารวมกำลังที่ชลบุรี ต่อจากนั้นจะมุ่งสู่กรุงเทพฯ เพื่อดำเนินตามแผนการณ์ที่วางไว้
2 ทุ่มเศษๆ รถยนต์ 4 คัน ภายในรถมีอาวุธและพลพรรคเต็มคันรถ โดยการนำของ ร.อ. วัชรชัย ชัยประสิทธิเวช ได้เคลื่อนออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยไม่มีใครเฉลียวใจว่า รถ 4 คันนั้นเป็นของใคร
หน้าประตูวิเศษไชยศรี นายเรือเอก วัชรชัย กระโดลงจากรถ พร้อมด้วยพรรคพวก ก็พร้อมอยู่แล้วสำหรับเหตุการณที่จะเกิดขึ้น จากนั้น ร.อ. วัชรชัย ก็ร้องเรียกให้นายร้อยโทพร เลิศล้ำ ผู้กองรักษาการณ์ ร. พัน. 1 ประจำพระบรมมหาราชวัง ออกมาพบที่หน้าประตู เมื่อ ร.ท. พร ออกมาพบก็ถูกเอาปืนจี้บังคับให้ปลดอาวุธโดยทันที จากนั้นก็บุกเข้าไปปลดอาวุธทหารที่รักษาการณ์ทั้งหมด แล้วเข้ายึดพระบรมมหาราชวังไว้ได้ ก่อนจะลำเรียงอาวุธนานาชนิดเข้าไป
เมื่อการยึดพระบรมมหาราชวังได้เป็นไปตามแผนแล้ว นายปรีดี พนมยงค์ กับพรรคพวก 7 คน สวมเครื่องแบบทหารสื่อสาร พร้อมอาวุธครบมือ ได้พากันเข้าไปในสถานีวิทยุพญาไท แล้วใช้อาวุธบังคับเจ้าหน้าที่กรมโฆษณาการ แล้วกระจายข่าวว่า...
ได้มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ล้มเลิกรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม เสีย และคณะรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งด้วย และได้แต่งตั้งนาย ดิเรก ชัยนาม เป็นนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงการคลัง ให้นายทวี บุณยเกต เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และได้ประกาศแต่งตั้งและปลดบุคคลสำคัญ อีกหลายคน
จากนั้นพวกกบฎก็ถอดชิ้นส่วนของเครื่องวิทยุกระจายเสียงไปด้วย เพื่อป้องกันมิให้รัฐบาลทำการกระจายเสียงต่อไปได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น