9/2/53

แกรนด์ดัชเชสอนาสตาเชีย นิโคเลฟน่า แห่งรัสเซีย



จากเรื่องเล่าลือสู่ตำนาน

อนาสตาเซีย นิโคลาเยฟนา สันนิษฐานว่าทรงถูกปลงพระชนม์พร้อมพระบิดา พระมารดา และพระภคินีและพระราชอนุชา ในห้องใต้ดินของบ้าน Ipatiev ณ เมืองเอคาเตลินเบิร์ก เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2461 เมื่อเพียงชันษาเพียงแค่ 17 ปี โดยกองกำลังตำรวจลับบอลเชวิก ภายใต้การบังคับบัญชาของ ยูคอฟ ยูรอฟสกี

แต่มีการเล่าขานว่า อนาสตาเซีย เป็นพระธิดาองค์เดียวที่ทรงรอดมาได้ เนื่องจากขณะที่ฝ่ายบอลเชวิกยิงประหารพระองค์ กระสุนได้กระทบกับเครื่องประดับอัญมณีและกระเด้งหายไป และพระองค์ก็ทรงแกล้งสิ้นพระชนม์

เรื่องเล่าขานนี้ถือเป็นเรื่องที่โด่งดังที่สุดเรื่องหนึ่งในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ไม่กี่ปีต่อมาหลังจากการประหารได้มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่าแกรนด์ดัชเชสองค์เล็กยังทรงพระชนม์ชีพอยู่ ในที่สุด เมื่อ พ.ศ. 2465 ก็ได้มีสตรีผู้หนึ่งนามว่า แอนนา แอนเดอร์สัน ประกาศตนว่าเป็นอนาสตาเซีย แต่ก็ได้มีการตรวจดีเอ็นเอเมื่อ พ.ศ. 2537 (หลังจากที่แอนนา แอนเดอร์สันได้เสียชีวิตไปแล้วถึงกว่า 20 ปี) และผลที่ได้คือ เธอมิใช่อนาสตาเซียตามที่อ้างแต่อย่างใด อย่างไรก็ดี ผู้สนับสนุนหลายคนปฏิเสธผลการพิสูจน์นี้ อีกผู้หนึ่งที่อ้างว่าตนคืออนาสตาเซีย คือ ยูจิเนีย สมิธ เมื่อ พ.ศ. 2529 ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มโต้เถียงเรื่องอนาสตาเซีย แต่คำกล่าวอ้างของเธอไม่สอดคล้องกับความจริง

เมื่อ พ.ศ. 2534 ได้มีการค้นพบพระศพ 2 พระศพ พระศพหนึ่งเป็นของ ซาเรวิช อเล็กซี พระโอรสองค์เล็ก และอีกพระศพซึ่งได้รับการยืนยันจากนักวิชาการว่าคือพระศพของ อนาสตาเซีย ทั้ง 2 พระศพมิได้ถูกฝังร่วมกับพระบิดา พระมารดา และพระภคินี แต่ถูกเผาโดยกลุ่มคนที่ไม่ทราบแน่ชัดในป่าข้างๆ สุสาน

เมื่อ พ.ศ. 2543 คริสต์จักรนิกายรัสเซียนออร์โธดอกส์ ได้ประกาศให้ พระเจ้าซาร์นิโคลัส, พระนางอเล็กซานดรา, แกรนด์ดัชเชสโอลกา, แกรนด์ดัชเชสทาเทียนา, แกรนด์ดัชเชสมาเรีย, แกรนด์ดัชเชสอนาสตาเซีย และ ซาเรวิช อเล็กซี เป็นนักบุญ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น