29/5/53

15 วิธีแก้ "เบื่อ" ก่อนปล่อยให้ปัญหาเรื้อรังทำลายสุขภาพ

เริ่มต้นการทำงานกับเช้าวันจันทร์กันอีกแล้ว หลาย ๆ คนอาจยังไม่พร้อมสำหรับการลุกขึ้นสู้ในวันนี้ รวมถึงอาจมีอาการเบื่อหน่าย อยากนอนพักต่ออีกสักงีบ หรืออีกสักวัน แต่อย่าปล่อยให้ความเบื่อทำร้ายสุขภาพค่ะ เพราะมีการวิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญจาก University College London ระบุว่า การที่คนเราปล่อยให้ชีวิตน่าเบื่อหน่าย ไม่มีไฟในการทำสิ่งต่าง ๆ นั้นจะดึงคุณให้หันไปหาพฤติกรรมที่ทำร้ายสุขภาพตัวเองได้ในที่สุด ยกตัวอย่างเช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ เสพยาเสพติด หรือมีปัญหาด้านพฤติกรรม - การเข้าสังคม ที่เลวร้ายกว่านั้นคือ ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้อาจทำให้คุณเสียชีวิตได้ตั้งแต่อายุยังน้อยอีกด้วย

ที่น่าแปลกใจก็คือ ผลการวิเคราะห์แบบสอบถามที่ตอบโดยกลุ่มอาสาสมัครอายุระหว่าง 35 - 55 ปีจำนวน 7,000 คนในช่วงปี ค.ศ. 1985 - 1988 นั้นพบว่า กลุ่มผู้หญิงเป็นกลุ่มที่มีอาการเบื่อหน่ายในชีวิตสูงสุด

อย่างไรก็ดี มีแนวทางที่ช่วยลดอาการเบื่อลงได้ ซึ่งทางเว็บไซต์ zenhabits.net ได้รวบรวมเอาไว้ 15 ข้อดังนี้

1. หาความท้าทายใหม่ ๆ ให้ชีวิต หลายครั้งที่คนเราเกิดความรู้สึกเบื่อเป็นเพราะชีวิตไม่ได้พบกับความท้าทายใด ๆ เลย มีแต่งานรูทีนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คงจะดีหากคุณตั้งเป้าหมายใหม่ ๆ ให้กับของชีวิตให้ตัวเอง และพยายามพิชิตมันให้ได้ ถึงแม้ว่าจะไม่สำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อย ชีวิตคุณก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงบ้างแล้ว

2. มองหางานใหม่ หากวิเคราะห์แล้วว่าสิ่งที่ทำให้คุณเบื่อก็คืองานที่ทำ คุณอาจจำเป็นต้องคิดถึงการโยกย้ายเอาไว้บ้าง ซึ่งคำแนะนำของทางเว็บไซต์ระบุว่า ไม่จำเป็นต้องยื่นใบลาออกทันที แต่ให้ลองทำลิสต์รายชื่อของบริษัทที่น่าสนใจ-งานที่คุณคิดว่าจะไม่ทำให้คุณเบื่อ อัปเดตประวัติการทำงาน และลองส่งออกไปก่อนดีกว่าออกมาเดินเตะฝุ่นเล่น ๆ

3. ตั้งเป้าหมายของชีวิต และจดออกมาเป็นข้อ ๆ ถึงสิ่งที่คุณต้องการจะทำให้สำเร็จให้ได้ก่อนที่คุณจะจากโลกนี้ไป ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับงานอย่างเดียว เป็นเรื่องของทัศนคติ มุมมอง หรือความต้องการใด ๆ ก็ได้ แต่หากเคยทำเอาไว้แล้ว ก็ลองหยิบมันขึ้นมาอ่านใหม่อีกสักครั้ง หรือเลือกเป้าหมายชีวิตสักข้อขึ้นมาทำให้สำเร็จในปีนี้

4. เคลียร์โต๊ะทำงาน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่จะช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้กับชีวิต และได้ย้ายของที่ไม่จำเป็นออกไปเสียบ้าง หรืออาจใช้เวลานี้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงาน ลองคิดหาวิธีที่จะช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น สิ้นเปลืองทรัพยากรน้อยลง

5. หางานอดิเรกที่ชื่นชอบมาทำ เช่น หาเวลาว่างอ่านหนังสือ เขียนบล็อก เล่นเกม เพื่อหาอะไรใหม่ ๆ ให้กับชีวิต แต่อย่าให้เบียดบังเวลางานจนกระทั่งถูกเพ่งเล็งจากคนรอบข้าง ควรใช้เวลาว่างก่อนหรือหลังเลิกงานทำงานอดิเรกเหล่านี้จะดีกว่า

6. สมัครคอร์สเรียนพิเศษหาความรู้ให้ตัวเอง ไม่จำเป็นว่าต้องเรียนในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่การงานเสมอไป อาจเป็นการเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มในวันเสาร์ - อาทิตย์ เรียนทำอาหาร เรียนศิลปะ เรียนคอมพิวเตอร์ หรืออะไรก็ได้ที่คุณสนใจ

7. ลาพักผ่อน เขียนใบลาพักร้อนสัก 1 - 2 วัน หนีความเบื่อหน่ายซ้ำซากในชีวิตก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้

8. เดินยืดเส้นยืดสาย

9. ดื่มน้ำเยอะ ๆ

10. โทรศัพท์ - เขียนจดหมายหาคนที่คุณรัก

11. จัดการไฟล์บนคอมพิวเตอร์ให้เป็นระเบียบ

12. เช็คเมลให้หมด หลายคนมีเมลค้างอยู่นับสิบนับร้อยฉบับ ไม่มีเวลาเช็ค ช่วงที่เบื่อ ๆ การเข้าไปเช็คเมลให้หมด ก็อาจได้ข้อมูล - แนวคิดดี ๆ จากเมลเหล่านั้นติดกลับมือออกมาบ้าง

13. วางแผนการเงิน หรือเปลี่ยนวิธีใช้เงินของตัวเอง จากที่เคยใช้หมดไม่เคยเหลือเก็บ ก็ลองมองหารูปแบบการเก็บเงินเหมาะ ๆ ให้กับตัวเอง นอกจากนี้ยังสามารถใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในคอมพิวเตอร์-อินเทอร์เน็ต ในการช่วยบริหารจัดการรายได้ที่มีให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้นได้ด้วย (อย่างไรก็ดี ควรระวังการป้อนข้อมูลบางชนิดลงไปด้วย เช่น เลขบัตรเครดิต หมายเลขบัญชีธนาคาร ฯลฯ เพราะหากมีการรั่วไหลของข้อมูลแล้ว อาจกลายเป็นความสูญเสียทางการเงินได้)

14. อยู่ห่างจากคนหรือสถานการณ์ที่ทำให้เบื่อ แม้ว่าในชีวิตจริง คนเราจะไม่สามารถหลีกหนีคน-สถานการณ์ที่น่าเบื่อไปได้ แต่การไม่นำสิ่งเหล่านั้นมาคิดต่อก็เป็นการสร้างปราการขึึ้นในจิตใจและช่วยให้คุณมีแรงใจในการทำงานมากขึ้น

15. เป็นอาสาสมัครช่วยเหลือคนอื่น เช่น ทำงานเป็นอาสาสมัครในโรงพยาบาล หรือช่วยเลี้ยงเด็กอ่อน ช่วยสอนหนังสือเด็ก ๆ เป็นต้น

ความหมายง่ายๆของคำว่าเพื่อน

เพื่อนบางคนอาจคอยมองดูคุณอยู่แบบห่างๆ

แต่ไม่กล้าแสดงออก

แต่เพื่อนบางคนอาจจะเข้ามายุ่งกับคุณโดยตรง

เพราะเขาเป็นคนกล้า

เพื่อนบางคนอาจทำทุกสิ่งทุกอย่างให้คุณได้

โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

ในขณะที่เพื่อนบางคนไม่ได้ยินคำขอร้องของคุณด้วยซ้ำ

เพื่อนบางคนอาจพูดอะไรตรงๆกับคุณเพราะรัก

แต่เพื่อนบางคนของคุณอาจพูดแต่คำหวานๆ

ซึ่งแฝงไปด้วยความน่ากลัว

เพื่อนบางคนอาจเหมือนคนที่ไม่อดทน

มักบ่นอะไรเล็กๆน้อยๆเสมอ

แต่จริงๆแล้วเขาอาจเป็นคนที่มีความอดทนมากกว่าที่คุณคิดเสียอีก

เพื่อนบางคนอาจไม่เคยมีความลับกับคุณ

อาจแม้กระทั่งให้คุณอ่านไดอารี่แสนหวงของเขา

แต่เพื่อนบางคนอาจไม่เคยแม้แต่จะเล่าเรื่องชีวิตส่วนตัวให้คุณฟัง

เพื่อนบางคนอาจไม่เคยโทรศัพท์หาคุณเลย

มีแต่คุณเท่านั้นที่มัวแต่โทรหาเขาทุกวัน

เพื่อนบางคนอาจโทรมาหาคุณได้โดยที่คุณไม่ต้องขอร้องเลยด้วยซ้ำ

เพื่อนบางคนอาจจะอยู่เคียงข้างคุณ

ในยามที่คุณต้องการใครซักคน

โดยที่ไม่มีใครขอ
แต่เพื่อนบางคนไม่อาจแม้แต่จะรับรู้ความรู้สึกของคุณได้

เพื่อนบางคนอาจถึงขนาด นั่งร้องไห้กับคุณ

ในขณะที่อีกหลายๆคนไม่สนด้วยซ้ำว่าคุณกำลังอยู่ที่ไหน

เพื่อนบางคนอาจเคยทำผิดกับคุณบ้างแต่เขาก็ยังพยายามที่จะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก

ในขณะที่เพื่อนบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำผิดต่อคุณ

เพื่อนบางคนอาจหมายความตามที่เขาพูด

เช่น ขอโทษก็คือขอโทษ

ในขณะที่เพื่อนบางคนพูดขอโทษ แต่หมายถึงสมน้ำหน้า

เพื่อนบางคนอาจจำได้ว่าคุณโทรมาหาเขาข้ามวันข้ามคืน

ถึงแม้ว่าเขาจะติดต่อคุณไม่ได้ แต่ก็ยังคงพยายาม

ในขณะที่เพื่อนบางคนอาจจำได้ไม่เกินครึ่งวันด้วยซ้ำว่าคุณโทรหาเขา

เพื่อนบางคนอาจเหมือนคนที่มีอารมณ์แปรปรวน

อาจทำอะไรที่คุณคาดไม่ถึง

แต่ไม่แน่เขาอาจเป็นน้อยกว่าคุณก็ได้ เพียงแต่คุณไม่รู้ตัว

เพื่อนบางคนอาจชอบอยู่กับกลุ่มคนเยอะๆ ที่สนุก เฮฮา

แต่เพื่อนบางคนอาจจะภูมิใจกับกลุ่มเพื่อนเล็กๆที่อบอุ่นมากกว่า

เพื่อนบางคนอาจมัวนั่งเงียบๆจนให้คุณไม่อาจรู้ได้ว่า

เขากำลังคิดอะไรอยู่

แต่ในขณะที่เพื่อนบางคนพูดมากเสียจนคุณรำคาญ

เพื่อนบางคนอาจอยากให้คุณรับรู้ความรู้สึกจากเขาทางสายตา

แต่เพื่อนบางคนอาจเดินมาบอกความรู้สึกกับคุณด้วยตัวเอง

เพื่อนบางคนอาจจะไม่มีการแสดงออกใดๆทั้งสิ้น

แม้ว่าคุณจะทำให้เขาเสียใจเพียงใด

แต่ในขณะที่เพื่อนบางคนอาจเดินเข้ามาต่อว่าคุณ

จนคุณไม่เหลือซากก็ได้

เพื่อนบางคนสามารถอ่านใจคุณได้

ในขณะที่อีกหลายๆคนไม่อาจรับรู้และเข้าใจความรู้สึกของคุณได้

แม้ว่าคุณจะบอกเขาไม่รู้กี่ครั้งแล้วก็ตาม

แล้วคุณล่ะเป็นเพื่อนแบบไหน?

mailนี้จะไม่บังคับให้คุณส่งต่อ

และจะไม่มีการแช่งหรืออะไรก็แล้วกับคุณถ้าหากว่าคุณไม่ส่งต่อ

แต่พวกเราแค่อยากให้ทุกคนสัมผัสกับความรู้สึกของแต่ละคนได้ว่า

เพื่อนของเค้ายังรักและห่วงเขาเสมอ........

เข็มนาฬิกากับหน้าที่

ณ ห้องนั่งเล่นของบ้านหรูสไตล์ตะวันตกหลังหนึ่ง
มีนาฬิกาเรือนงามเรือนหนึ่งประดับเด่นอยู่บนผนังของห้องนั่งเล่นนั้น
เข็มนาฬิกาทั้งสามบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนงามนี้ต่างภูมิใจในหน้าที่ของพวกตน
ที่ได้บอกเวลาอย่างเที่ยงตรงแก่เจ้าของบ้านและผู้มาเยือนมาโดยตลอด

วันหนึ่งเจ้าเข็มวินาทีสีแดงสดรูปร่างเพรียวบางรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับภาระหน้าที่ของตัวเอง
ที่ต้องตรากตรำเดินอยู่บนหน้าปัดตลอดเวลาอย่างเหน็ดเหนื่อย
ในขณะที่ในวันหนึ่ง ๆ เจ้าเข็มสั้นและเจ้าเข็มยาวไม่ค่อยได้เดินสักเท่าไรเลย
เจ้าเข็มวินาทีจึงรู้สึกว่าตนถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างมาก จึงโวยวายออกไปว่า
“ข้าทนไม่ไหวแล้วนะ พอทีเถอะ ข้าเหนื่อยเหลือเกินกับการทำหน้าที่ของข้า
พวกเจ้าเอาเปรียบข้า ข้าไม่เคยได้พักอย่างพวกเจ้าบ้างเลย
ข้าไม่อยากเดินอีกต่อไปแล้ว พอกันที”

เมื่อได้ฟังดังนั้น เจ้าเข็มสั้นจึงบอกกับเจ้าเข็มวินาทีไปด้วยเสียงอันแหลมเล็กว่า
“โอ๊ะ.........โอ!! โถๆๆๆ เจ้าเข็มวินาทีเอ๋ย เจ้าหาว่าพวกข้าเอาเปรียบงั้นรึ?
เจ้าจงมองดูรูปร่างของข้าสิอ้วนอุ้ยอ้ายและยังตัวสั้นเตี้ย
แถมข้ายังมีหัวที่โตมากอีกต่างหากข้าต้องแบกหัวหนัก ๆ นี้ไว้ตลอดเวลาเลย
กว่าข้าจะเดินได้แต่ก้าวนี่ช่างยากลำบากกว่าเจ้าเป็นไหน ๆ
แล้วอย่างนี้เจ้าจะมาหาว่าข้าเอาเปรียบเจ้าได้อย่างไรกัน”

เจ้าเข็มยาวก็กล่าวเสริมว่า “เจ้าเข็มวินาทีเอ๋ยเจ้าคงไม่รู้หรอกนะว่า
ข้าแอบอิจฉาเจ้าที่เจ้ามีรูปร่างเพรียวบางสามารถเดินได้อย่างคล่องแคล่ว
และมีสีแดงสดใสสะดุดตาเช่นเจ้านี้ ผิดกับข้านักที่ตัวดำและหนาเทอะทะ”

“ไม่จริง พวกเจ้าโกหกไม่ต้องมาหลอกข้าซะให้ยาก
บอกว่าข้าดีอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมไม่มาเป็นข้าดูบ้างล่ะ
ข้าจะได้พักผ่อนเสียที” เจ้าเข็มวินาทีกระแทกเสียง

เจ้าเข็มนาฬิกาทั้งสามจึงสลับหน้าที่กัน
โดยที่เจ้าเข็มสั้นทำหน้าที่แทนเจ้าเข็มยาว
ขณะที่เจ้าเข็มยาวทำหน้าที่แทนเจ้าเข็มวินาที
ส่วนเจ้าเข็มวินาทีได้แต่นอนดูเพื่อน ๆ เดินตามหน้าที่ใหม่
มันดีใจมากที่ไม่ค่อยได้เดินสักเท่าไรเพราะมันทำหน้าที่แทนเจ้าเข็มสั้น

ทันใดนั้นเจ้าของบ้านที่กำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นก็เกิดความประหลาดใจมาก
ที่เห็นนาฬิกาเรือนงามบนผนังเดินผิดปกติ
กึก...กึก..........กึก........
เจ้าเข็มวินาทีสะดุ้งเฮือกเมื่อรับรู้ถึงการสั่นสะเทือนของนาฬิกา
“โอ๊ย......... เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ?” เจ้าเข็มวินาทีถามขึ้น
“แย่แล้ว..... พวกเราไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้วหรือนี่
ทำไมเขาถึงยกนาฬิกาที่เราอยู่ลงจากผนังเสีย ? เราจะทำอย่างไรดีล่ะทีนี้”

เจ้าเข็มสั้นพูดด้วยเสียงอันสั่นเครือ
“เมื่อพวกเราต่างไม่ได้ทำตามหน้าที่ของตน
นาฬิกาเรือนนี้ก็ไม่สามารถบอกเวลาได้อย่างแม่นยำเหมือนเดิมได้อีกแล้ว
เจ้าของบ้านเขาคงเห็นว่าเราคงหมดประโยชน์แล้วล่ะ
แต่ข้าว่ามันคงไม่สายเกินไปนะ ที่พวกเราจะทำให้นาฬิกาเรือนที่เราอยู่นี้มีคุณค่าขึ้นอีกครั้ง
โดยที่เราต้องทำตามหน้าที่ของแต่คนตามเดิม” เจ้าเข็มยาวบอก

“ข้าผิดไปแล้ว เพราะข้าคนเดียวทำให้พวกเราหมดคุณค่าไป “
เจ้าเข็มวินาทีพูดด้วยความสำนึกผิด
แล้วเจ้าเข็มนาฬิกาทั้งสามก็กลับมาทำหน้าที่ของพวกตนตามเดิม

เมื่อเจ้าของบ้านเห็นว่านาฬิกาเรือนงามของเขาสามารถบอกเวลาได้ตามปกติแล้ว
เขาจึงนำนาฬิกาเรือนนั้นไปแขวนที่ผนังห้องนั่งเล่นตามเดิม
เจ้าเข็มนาฬิกาทั้งสามก็เดินบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนงามตามหน้าที่ของพวกตนอย่างมีความสุข
ที่มา : admin

ความเครียดทีเกินทน..จะเปลี่ยนคนเป็น..อะไร?

ความเครียดเกินทน....จะเปลี่ยนคนเป็น..หมู
พูดไม่ออกบอกไม่รู้.....ระบายสู่การกิน

ความเครียดเกินทน.....จะเปลี่ยนคนเป็น..หมา
มันจนตรอกออกลูกบ้า..ฟัดไม่ว่าหมาหรือคน

ความเครียดเกินทน.....จะเปลี่ยนคนเป็น..หิน
ไม่รับรู้ไม่ยลยิน...........เปลี่ยนเป็นหินที่ด้านชา

ความเครียดเกินทน.....จะเปลี่ยนคนเป็น..บ้า
ไม่รับรู้กติกา...............บ้าละวะ..รู้กันไป

ความเครียดเกินทน.....จะเปลี่ยนคนเป็นเป็น..ขวด
กรอกสุรา..เอามาดวด..เป็นแค่ขวดไร้ราคา

ความเครียดเกินทน.....คิดอย่างคนคิดเถิดหนา
ปล่อยวางห่างไกลตา...ใช้ปัญญาค่อยว่ากัน ...

ทายใจ..จากของที่คุณจะ "ขโมย"

สมมุติว่าวันหนึ่งเพื่อนๆได้ไปเที่ยวธรรมชาติ และกำลังเดินเล่นอยู่ท่ามกลางขุนเขา
แล้วเพื่อนๆก็เห็นบ้านหลังหนึ่งตั้งอยู่โดดเดี่ยว แถมประตูก็ไม่ได้ล็อค
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นคุณก็เลยแบบเข้าไปในบ้าน อุ้ย!! ไม่มีใครอยู่หรอเนี่ย
และแล้วเพื่อนๆจึงมีความคิดแว้บเข้ามาในสมอง ที่อยากจะขโมยของบางอย่าง
ของนั้นจะเป็นอะไรดีเอ่ย? (แค่คิดเล่นๆ นะ)

1. จานลวดลายต่างๆ

2. แผนที่กับเข็มทิศ

3. มีดเล่มงาม

4. เครื่องประดับ

>>>>>

>>>

>>

>

>

[มาดูเฉลยกันเลย]

เลือกข้อ 1. จานลวดลายต่างๆ
เป็นคนที่หลงตัวเอง ไม่ค่อยจะแคร์ความรู้สึกคนใกล้ชิด

เลือกข้อ 2. แผนที่กับเข็มทิศ
เป็นคนที่ซีเรียส เอาจริงเอาจังกับชีวิต ถึงจะเครียดแค่ไหน คุณกลับเป็นคนที่ขี้ลืมมากๆ

เลือกข้อ 3. มีดเล่มงาม
เป็นคนที่เข้มแข็ง ดันทุรังสูง ไม่ยอมใครง่ายๆ ชอบเรียกร้องความสนใจจากคนอื่น รวมถึงคนที่เพื่อนคุณปิ๊งด้วย

เลือกข้อ 4. เครื่องประดับ
คุณมีนิสัยชอบจับผิด เห็นอะไรผิดหูผิดตาแล้วรู้สึกทนไม่ได้ แถมยังชอบเข้าข้างตัวเองอีกต่างหาก คำพูดที่ติดปากคุณเสมอๆ นั่นคือ “ฉันไม่ผิด”

เพื่อนๆขโมยของสิ่งไหนกันบ้างหรอ?

ข้อดีของความทุกข์

1.ทำให้เราเข้มแข็งขึ้น

2.ทำให้รู้ถึงค่าของความสุข

3.ทำให้เรามีความสามารถมากขึ้น

4.ทำให้เรามีสิ่งที่ต้องทำ(ทำเพื่อให้หาย
ทุกข์ )

5.ทำให้เรามีประสบการณ์ในการแก้ปัญหามาก
ขึ้น

6.ทำให้เรามีความอดทนมากขึ้น

7.ทำให้ความสุขมีค่ามากขึ้น

8.ทำให้มีความระมัดระวังมากขึ้น

9.ทำให้เรามองโลกกว้างมากขึ้น

10.ทำให้เราเห็นได้ว่าใครคือคนที่เป็นที่พึ่งยาม
ยากของเรา

11.ทำให้เราได้รู้ว่ามีใครบ้างที่ห่วงเรา

12.ทำให้เราได้รู้ว่ามีใครบ้างที่เป็นมิตรแท้ของเรา

13.ทำให้รู้ได้ว่าเพื่อนของเรามีความสามารถแค่ไหน

14.ทำให้เรารู้ว่าใครมีความสามารถขนาดไหน

15.ทำให้เรารู้ได้ว่ามีคนไหนที่รักเราจริง

16.ทำให้เรารู้ว่าการหัวเราะเป็นสิ่งจำเป็น

17.ทำให้เราพยายามที่จะมองโลกในแง่ดีมาก
ขึ้น

18.ทำให้เรามาค้นหาข้อดีของความทุกข์